ศาลากลางนนทบุรีหลังเก่า
ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี (หลังเก่า) ตั้งอยู่
บริเวณท่าน้ำนนทบุรีใกล้กับหอนาฬิกา เป็นอาคารไม้สักเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ลักษณะอาคารสร้างด้วยไม้สักเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ที่ประยุกต์ให้เข้ากับภูมิอากาศเขตร้อน อาคารหลังนี้ได้รับการอนุรักษ์ และปรับปรุงให้เป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี
อันเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดนนทบุรีอย่างครบถ้วน โดยเป็นแหล่งรวบรวมเก็บรักษาและจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตลอด จนมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันทรงคุณค่า
Street Art
เมืองนนท์
Street Art เมืองนนท์ ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ งานที่วาดได้อย่างสวยงามสมจริงแบบสามมิติ แต่ละภาพสะท้อนเรื่องราว วิถีชีวิต ชุมชน ประเพณี วัฒนธรรม ของดีจังหวัดนนท์ รวมถึงอัตลักษณ์ความเป็นเมืองนนท์ ถูกถ่ายทอดไว้บนภาพศิลปะแบบสตรีทอาร์ททั้งบนกำแพง บริเวณตอม้อสะพาน กลายเป็นสีสัน ที่ใครผ่านไปมาต้องหันมามองและแวะมาถ่ายภาพ
ชมเฌย
ชมเฌย (The Memory of Gallery) เป็นสตูดิโอขนาดย่อม ๆ ที่นี่จำลองบรรยากาศเก่าๆ ของร้านค้า ตึกรามบ้านช่อง สไตล์คลาสสิคยุค70-80 ที่คนสมัยนี้อาจจะยังไม่เคยเห็น ชมเฌย จะโดดเด่นด้วยสีสัน ทั้งร้านค้า โรงหนัง ตึกต่าง ๆ ปั๊มน้ำมันล้วนมีสีสันสดใส มีการใช้ฉากหลังสไตล์วินเทจ เรโทร
ใช้คู่สีลงตัว นอกจากความสวยของสถานที่ที่เป็นไฮไลท์แล้ว
ที่นี่ก็มีคาเฟ่ไว้บริการ ทั้งกาแฟ เครื่องดื่ม อาหารคาวหวาน
แถมรสชาติดีและราคาไม่แรง
ตลาดน้ำวัตะเคียน
ยุคนี้บทบาทความสำคัญของคลองจะลดน้อยลงไปมาก ทว่าหนึ่งในคลองที่ยังคงคึกคักตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน
ก็คือคลองบริเวณวังตะเคียนซึ่งเป็นที่ตั้งของ
"ตลาดน้ำวัดตะเคียน" ซึ่งหลวงปู่แย้มต้องการพลิกฟื้น
วิถีชีวิตของคนในอดีตให้กับลูกหลานเหล่าคนรุ่นใหม่
ได้สัมผัสจึงได้จัดพื้นที่บริเวณลำคลองเปิดเป็นตลาดน้ำ
ให้ชาวบ้านเข้ามาค้าขายได้ฟรีได้รับการตอบรับจากพ่อค้าแม่ขายจำนวนมาก ที่นี่จึงมีสารพันสินค้าให้เลือกซื้อหากันบนฝั่งหรือจะเลือกซื้อจากเรือที่พายมาขายก็ได้ เช่น
เรือผลไม้ตามฤดูกาล เป็ดพะโล้ ก๋วยเตี๋ยวเรือ เครื่องดื่มน้ำสมุนไพร ฯลฯ ใครอยากทำกิจกรรมสนุก ๆ ก็มีบริการไม่ว่าจะเป็นถีบจักรยานน้ำล่องเรือชมวิวสองฝั่งคลอง
บางคูเวียงและคลองบางรางนกสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน
ริมคลองกับเรือนไทยโบราณท่ามกลางธรรมชาติ
อันสงบร่มรื่น
วัดเล่ง
เน่ยยี่ 2
วัดเล่งเน่ยยี่2 หรือ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์
อภิมหาสถาปัตยกรรมจีนในยุคราชวงศ์หมิง–ชิง
มีเนื้อที่ทั้งหมด 12 ไร่ ตั้งอยู่ชานเมือง ย่านบางบัวทอง ถือเป็นธรรมสถานที่ผู้คนให้ความศรัทธาในเรื่องการสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตาโดยเฉพาะบรรดาคน “ปีชง”
ทั้งหลาย เสริมความมั่นอกมั่นใจในการประคองชีวิตวัดเล่งเน่ยยี่ 2 เป็นวัดจีนนิกายรังสรรค์ ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าอาวาสวัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกมลาวาส วัดดั้งเดิม เขตป้อมปราบฯ) และพุทธบริษัทไทย–จีน ร่วมกันสร้างเพื่อขยายพื้นที่และพัฒนาวัดให้สวยงามเพื่อเป็นอนุสรณ์เนื่องในวโรกาสปีกาญจนาภิเษก โดยยังคงวัดเล่งเน่ยยี่เดิมไว้ แม้จะมีพื้นที่เพียง 4 ไร่ แต่ก็ถือว่าเดินทางสะดวกสำหรับผู้คน
ในย่านนั้น
วัดกู้ (พระนางเรือล่ม)
วัดกู้ เดิมมีชื่อว่า “วัดท่าสอน” หรือ “วัดหลังสวน” เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2423 ขบวนเรือพระพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เกิดอุบัติเหตุล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในขณะนั้นทรงตั้งพระครรภ์เจ้าฟ้าได้ 5 เดือนแล้ว ในคราวที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานยังพระราชวังบางปะอิน ขณะแล่นมาถึงตำบลบางพูด เป็นเหตุให้สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์สวรรคต สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์สิ้นพระชนม์ รวมทั้ง
พระพี่เลี้ยงแก้วถึงแก่กรรม เล่ากันมาว่าได้เชิญ
พระศพขึ้นที่วัดกู้นี้เป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะอัญเชิญพระศพสู่พระบรมมหาราชวังต่อไป
ยกเย็น
ขึ้นบก
ยกเย็นขึ้นบก ร้านอาหารที่ได้เปลี่ยนแปลงจากบ้านหลังใหญ่ ที่ยังคงกลิ่นอายความวินเทจได้เป็นอย่างดี แถมโลเคชั่นก็ยังดีสุด ๆ เพราะตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในร้านก็ตกแต่งได้อย่างน่ารัก มีมุมชิลล์ ๆ ให้นั่งห้อยขา พร้อมรับประทานอาหารแบบเพลินๆ โดยมีเมนูให้เลือกสั่งทั้งเมนูอาหารคาวและขนมหวานเลยทีเดียว
สุเหร่าแดง หรือ
มัสยิดดารุ้ลอาบีดีน
สุเหร่าเก่าแก่มีอายุเกือบ 80 ปี มีลักษณะเป็นอาคารไม้ 2 ชั้น สร้างด้วยไม้สักทอง สถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์ หลังคาทรงปั้นหยา มุงด้วยกระเบื้องสีแดง รอบชายคาตกแต่งด้วยฉลุไม้สีขาวสวยนวลตา
เมื่อมองโดยรวมจะเห็นอาคารมีสีแดงอ่อน ๆ ชาวบ้านจึงเรียกว่าสุเหร่าแดง มีหออะซาน
อาคารทรงก้นหอย 4 ชั้น อยู่ใกล้กับอาคารหลัก ตกแต่งด้วยกระจกสีสวยงาม